ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อมูล
และแจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศ ในขณะนี้นั้น
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงสภาพอากาศ
บริเวณประเทศไทย ช่วงปลายฤดูฝนปีนี้
สำหรับสภาพอากาศใน 2565 นี้
มีความแตกต่างจากปี 2554
โดยในปี 2554 ฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ
และมีฝนตกต่อเนื่องโดยไม่มีภาวะฝนทิ้งช่วง
ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีของประเทศไทยสูงกว่า
ค่าปกติประมาณร้อยละ 24 และมีค่ามากที่สุด
ในคาบ 61 ปี นับจาก พ.ศ.2494
และมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
โดยตรงจำนวน 1 ลูก คือพายุโซนร้อน “นกเตน”
(NOCK-TEN 1108) ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

นอกจากนั้นยังมีพายุหมุนเขตร้อนที่แม้จะ
ไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง
แต่ส่งผลทางอ้อมต่อลมฟ้าอากาศในประเทศไทยได้แก่
ได้แก่พายุโซนร้อน “ไหหม่า”ในเดือนมิถุนายน
พายุไต้ฝุ่น “เนสาด” และพายุโซนร้อน “ไห่ถาง”
ในช่วงปลายเดือนกันยายนต่อเนื่องถึง
ต้นเดือนตุลาคม และพายุไต้ฝุ่น “นาลแก” ในช่วงต้นเดือนตุลาคม
พายุเหล่านี้ ต่างส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น
และมีรายงานฝนหนักถึงหนักมากมาเป็นระยะๆและต่อเนื่อง
โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง
อีกทั้งมีรายงานน้ำเหนือไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่
ประกอบกับในระยะครึ่งหลังของเดือนตุลาคม
เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง
จึงทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงและต่อเนื่องในประเทศไทย
และในปี 2565 นี้
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนไปแล้ว
ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม
และคาดหมายว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน ในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม
โดยจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จำนวน 2 ลูกนั้น
ปีนี้ฤดูฝนได้เริ่มต้นในช่วงเวลาปกติของฤดูกาล
จากนั้นในช่วงเดือนมิถุนายนมีฝนลดลง
โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ ตาก อุบลราชธานี
เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร
จากนั้นสถานการณ์ฝนบริเวณประเทศไทยมีการกระจายเพิ่มขึ้น
อย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จนถึงปัจจุบัน
ปริมาณฝนรวมของประเทศไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี
ในทุกภาคของประเทศ โดยสูงกว่าค่าปกติ 203.9 มิลลิเมตร
หรือสูงกว่าค่าปกติร้อยละ 23

สาเหตุที่เกิดฝนส่วนใหญ่เกิดจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
และร่องมรสุมที่มีกำลังแรงเป็นระยะๆ
โดยยังไม่มีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง
มีเพียงพายุโซนร้อน “มู่หลาน”
ที่เคลื่อนตัวมา แล้วอ่อนกำลังลงบริเวณประเทศจีนตอนใต้
และพายุโซนร้อน “หมาอ๊อน”
ที่เคลื่อนตัวมา แล้วอ่อนกำลังลงบริเวณประเทศลาวตอนบน
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม และ 24 สิงหาคม ตามลำดับ
ซึ่งพายุดังกล่าว ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้
และร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงดังกล่าวมีกำลังแรงขึ้น
ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งเป็นระยะๆ
ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้
ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

โดยช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ปีนี้
จะยังมีฝนตกชุกหนาแน่นมากที่สุด
และยังมีโอกาสสูงที่จะมีพายุหมุนเขตร้อน
เคลื่อนผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบน
ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่
จากปัจจัยที่แตกต่างนี้
กรมอุตุนิยมวิทยาจึงขอแจ้งให้ประชาชนรับทราบ
และให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ
ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นและจะส่งผลกระทบกับประเทศไทย
กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
และหากพบเห็นข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง
สามารถตรวจสอบข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หากมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เพื่อประกอบการตัดสินใจในแต่ละพื้นที่
สอบถามได้ที่สายด่วน 1182 เว็บไซต์ www.tmd.go.th
แอปพลิเคชั่น thai weather
เพจ Facebook youtube Chanel twitter
และสถานีวิทยุกระจายเสียง ของกรมอุตุนิยมวิทยา
ด้วยความห่วงใยและปรารถนาดี จากกรมอุตุนิยมวิทยา