แผนย้ายฐานมาอาเซียน อาจถูกเช็คบิล | อาเซียนพลัส |TNN| อาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. 2566

ดูเหมือนว่า อาเซียนจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากยุทธศาสตร์ Decoupling
ย้ายฐานผลิตออกจากจีน แยกห่วงโซ่อุปทานออกจากกัน
ประเทศที่มีปริมาณเงินลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI
ไหลเข้ามากที่สุดในรอบ 2 ปี ที่เกิดความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ
ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้แก่ 4 ประเทศที่ใกล้ชิดสหรัฐฯ คือ
สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

เว็บไซต์ Asiatimes มองสถานการณ์นี้ อย่างระมัดระวัง แล้วพบว่า
การย้ายฐานออกจากจีน อาจจะไม่ปลอดภัย สำหรับบริษัทขนาดใหญ่
ระดับโลกอีกแล้ว เพราะทั้งสองค่ายมหาอำนาจ อาจจะตามเช็คบิล
กับบริษัทที่ถูกมองว่า หาประโยชน์จากความขัดแย้ง
และไม่ใช่พันธมิตรร่วมค่ายกันอย่างจริงจัง

เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้นใหม่ๆ การแข่งขันของ ค่ายจีนและสหรัฐฯ
ภายนอกอาเซียน มีความรุนแรง ต่างฝ่ายต่างหากลุ่มพันธมิตร
ทำให้ชนชั้นนำ ที่ครองผลประโยชน์ ในประเทศอาเซียน
มีอำนาจต่อรองในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และเข้าถึงเงินทุน
เพราะมหาอำนาจ ต้องการซื้อใจ จึงนำเงินเข้ามาลงทุน
และต้องการแก้ปัญหา จากการกำหนดภาษีสินค้าที่ผลิตจากจีน ของฝ่ายสหรัฐ

พัฒนาการ ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในรอบ 2 ปี ในอาเซียน
อันมีผลมาจาก มหาอำนาจขัดแย้งกันนี้ ได้สร้างโครงสร้างเชิงลึก
ที่ทำให้อาเซียนมีประสบการณ์ใหม่ ทางเศรษฐกิจ
ซึ่งจากนี้ไป อาเซียนต้องวางนโยบายให้รอบคอบ
และสร้างยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ให้ชัดเจนและเป็นจริง

ในรอบ สองปีที่ผ่านมา อาเซียนเปิดรับการพัฒนาเศรษฐกิจ
และเปิดรับนักลงทุนมากขึ้น เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากสองมหาอำนาจ
ทำให้อาเซียนเติบโตและพัฒนาสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรม
เพราะได้รับเงินลงทุนจากภายนอกและการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ
ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย
และประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตมาก อย่างเวียดนาม หรือกัมพูชา
ก็มีพันธมิตร ระดับโลก เข้าไปช่วยพัฒนา และช่วยนำพาเข้าสู่ตลาดโลก

อาเซียนมีความหลากหลาย และแตกต่างในแต่ละประเทศ
ทำให้คาดการณ์ได้ยากว่า แต่ละประเทศจะรับมือกับโอกาส
และความท้าทายของรัฐศาสตร์และการเมืองหรือภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร

บางประเทศ มีความพร้อมที่ดีกว่าที่อื่น ก็สามารถรับประโยชน์
จากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานการผลิตครั้งนี้ได้
เพราะนักลงทุนที่ย้ายออกจากจีน ต้องการสร้างความปลอดภัย
ให้กับเครือข่ายการผลิตของตนเอง และลดความเสี่ยงที่จะเกิด
จากรัฐศาสตร์และการเมือง

นอกจากนั้น การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางรัฐศาสตร์และการเมือง หรือภูมิรัฐศาสตร์นี้
ก็ขึ้นอยู่กับการเมืองภายในของแต่ละประเทศในอาเซียนด้วย เช่น หากประเทศใด
โอนเอียง ไปหาประโยชน์ของค่ายใดค่ายหนึ่งมากเกินไป และผู้ที่ได้รับประโยชน์
เป็นเพียงชนชั้นนำ เพียงกลุ่มเดียว รัฐบาลก็จะต้องพบกับความท้าทาย
จากประชาชนและระบบการเมืองภายในบ้านตัวเอง

เป็นอันว่า อาเซียนในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก
เพราะการบูรณาการเศรษฐกิจเข้ากับจีน ขณะที่บทบาทด้านความมั่นคง
ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ถูกจำกัดมากขึ้น

บทบาทของเศรษฐกิจจีนมีพลังมาก สอดคล้องกับนโยบายการเมือง
ที่เน้นรูปแบบการพัฒนา ในขณะที่บทบาทของสหรัฐด้านความมั่นคง
กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน ข้อจำกัดของการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐ
ที่กำลังถดถอย ทำให้สหรัฐรักษาบทบาทผู้นำด้านความมั่นคงในย่านนี้
ได้ยากมากขึ้น ขณะที่จีน สามารถเพิ่มขีดความสามารถ
ทางด้านเทคโนโลยีและการทหารได้ดี

การย้ายฐานออกจากจีน และกระจายการลงทุนเข้ามาในอาเซียนมากขึ้น
ก็ทำให้เกิดความเปราะบางได้เหมือนกัน จะเห็นได้ว่า
ทั้งสหรัฐและจีน เริ่มตรวจสอบ บริษัทที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตนว่า
การย้ายฐานการผลิต กระทำขึ้นเพื่อหลบหลีกปัญหาภาษี
และหลีกเลี่ยงความไม่ปลอดภัย ในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบในการผลิตสินต้า
โดยเฉพาะสินค้าไฮเทค เซมิคอนดักเตอร์ ที่ต่างฝ่าย ต่างประกาศ
ห้ามส่งออกสินค้าสำคัญให้กันและกัน ทำให้มหาอานจเริ่มตามเช็คบิลบริษัทกันมากขึ้น

แรงกดดันนี้พุ่งไปที่ บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ จำเป็นต้องเลือกข้าง
ว่าจะยืนอยู่ข้างไหนในห่วงโซ่การผลิต ที่กำลังแยกเป็น 2 วง
บางบริษัท จำเป็นต้องลงทุนในห่วงโซ่อุปทานทั้งสองวง
ตราบใดที่สหรัฐและจีน ยังเผชิญหน้ากันอยู่

#Decoupling #แยกห่วงโซ่อุปทานออกจากจีน #ย้ายฐานผลิตออกจากจีน #สงครามการค้าจีนสหรัฐฯ #อาเซียนมีอำนาจต่อรองด้านโครงสร้างพื้นฐาน #อาเซียนเปลี่ยนสู่ประเทศอุตสาหกรรม #เวียดนาม #ไทย #อินโดนีเซีย #สิงคโปร์ #เวียดนาม #อุตสาหกรรมนิกเกิลอินโดนีเซีย #การผลิตยานยนต์EVของประเทศไทย #สหรัฐและจีนตรวจสอบบริษัทที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตน
-------------------------

#TNN #อาเซียน4.0 #อาเซียน4.0ออนไลน์ #อาเซียนพลัส #อาเซียน #ASEANplus

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน

รายการ อาเซียน Plus
ทุกวันอาทิตย์
เวลา 09.30-10.00น.
ทาง TNNช่อง16

------------------------------------------

ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16
https://www.tnnthailand.com
https://tv.trueid.net/live/tnn16
https://www.youtube.com/c/tnn16
https://www.facebook.com/TNNthailand/
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
https://twitter.com/tnnthailand
https://www.instagram.com/tnn_online/
https://www.tiktok.com/@tnnonline
Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo

ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ