รัสเซีย-อินโดฯ มิตรแท้ ยันลงทุน 3 โครงการใหญ่ปีนี้ | อาเซียนพลัส | จันทร์ที่ 11 ก.ค. 2565 |
|
รัสเซีย-อินโดฯ มิตรแท้ ยันลงทุน 3 โครงการใหญ่ปีนี้ | อาเซียนพลัส | จันทร์ที่ 11 ก.ค. 2565
การเดินทางไปเยือนรัสเซียของ ประธานาธิบดีโจโกวี้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ 5 เรื่อง คือ 1 ขอเปิดทางนำเข้าข้าวสาลีจากยูเครน 2 ขอนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซีย 3 ยืนยันโครงการร่วมลงทุนโรงกลั่นน้ำมันในอินโดนีเซีย 4 รัสเซียยืนยันเข้าไปลงทุนการสร้างรถไฟในเมืองหลวงใหม่ 5 รัสเซียยืนยันการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีโจโกวี้ นับเป็นผู้นำอาเซียนคนแรก ที่เดินทางไปยังพื้นที่สงครามยูเครนและเยือนรัสเซียในช่วงเวลานี้ โดยยึดหลัก ตามหน้าที่ของการเป็นประธานการประชุม G20และการเป็นประธานหมุนเวียนของการประชุมอาเซียนในปี 2566 หน้าที่ของประธานG20 จำเป็นต้องเชิญรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมประชุม ในเดือนพฤศติกายน 2565 ท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาที่บอกให้ตัดรัสเซียออกจากการประชุม แต่อินโดนีเซียยืนหยัดจะเชิญทั้ง 2 ชาติ ทั้งยูเครนและรัสเซียเข้าร่วม แต่ดูเหมือนว่า ผู้นำรัสเซียต้องการเข้าร่วมประชุม คณะที่ชาติตะวันตกประกาศจะงดเข้าร่วมประชุม G20 หากรัสเซียเข้าร่วม เปิดเส้นทางส่งออกข้าวสาลีและปุ๋ย ผู้นำอินโดนีเซียเจรจาขอให้รัสเซียเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าในทะเลดำให้กับยูเครน เพื่อส่งออกข้าวสาลีมาให้อินโดนีเซีย เพราะในปีนี้อินโดนีเซีย นำเข้าข้าวสาลีจากยูเครนไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัสเซีย สำนักข่าว Tass ในรัสเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดีปูติน ไม่ได้มีข้อจำกัดในการส่งออกปุ๋ยและอาหารไปตลาดต่างประเทศ และรัสเซียจะส่งปุ๋ยไปให้เกษตรกรในประเทศที่เป้นมิตรกับรัสเซียอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประเทศกำหลังพัฒนาในซีกโลกใต้ที่วางตัวเป็นกลาง ในปัญหาความขัดแข้งรัสเซีย-ยูเครนได้ดี อินโดนีเซียต้องการข้าวและแป้งสาลีจำนวนมากในแต่ละปี เมื่อปี 2564 มีการนำเข้ารวมทั้งสิ้น 120,000 ล้านบาท สามอันดับแรกที่มีการนำเข้ามากคือ 1 ออสเตรเลีย นำเข้า 1,453 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2 ยูเครน นำเข้า 843 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 3 แคนาดา นำเข้า 639 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เว็บไซต์ strait times ของสิงคโปร์ เผยว่า การเดินทางไปรัสเซียของอินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จด้านการลงทุนกับรัสเซียด้วย เพราะช่วยย้ำเตือนรัสเซียว่า จะร่วมลงทุนใน 3 โครงการใหญ่ในอินโดนีเซีย ภายในปี 2565 นี้ ได้แก่ 1) ลงทุนโครงการโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี บริษัทเปอร์ตามีน่า ของอินโดนีเซียและบริษัท โรสเนฟต์ ออยล์ของรัสเซีย จับมือกันสร้างโรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ที่เกาะชวาตะวันออก มูลค่าการลงทุน 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 560,000 ล้านบาท ฝั่งอินโดนีเซียถือหุ้นร้อยละ 55 ฝั่งรัสเซียถือหุ้นร้อยละ 45 เวลานี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทเปอร์ตามีน่า โรสเนฟต์ (Pertamina Rosneft) ขึ้นมา เพื่อเข้าไปพัฒนาโรงกลั่น New Grass Refinery Root ที่เมืองตูบัน ซึ่งมีกำลังการกลั่นน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และน้ำมันสำหรับเครื่องบิน วันละ 229,000 บาร์เรล โครงการนี้มีความสำคัญต่ออินโดนีเซียมาก เพราะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการกลั่นน้ำมันให้เพียงพอใช้ และอินโดนีเซียไม่ต้องซื้อน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศอีกต่อไป และเวลานี้ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปแพงกว่าน้ำมันดิบมาก 2) การลงทุนในโครงการสร้างทางรถไฟในเมืองหลวงใหม่ ประธานาธิบดีปูติน เสนอให้บริษัทการรถไฟรัสเซีย หรือ Russian Railways เข้าไปลงทุนสร้างระบบรถไฟที่เมืองหลวงใหม่ของอินโดนีเซีย ในกรุงนูซันทารา กะลิมันตัน ซึ่งจะเริ่มลงมือก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2565 นี้ หลังจากล่าช้าไปนานเพราะติดวิกฤตโควิด19 3 ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยบริษัทพลังงานโรซาตอมของรัสเซีย จะเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ให้กับอินโดนีเซีย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2045 หรือ 2588 เป็นอีกแหล่งพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาด เพราะอินโดนีเซียอยู่ในสถานะขาดแคลนพลังงานและต้องการลดการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินในอนาคต ต้องหาพลังงานทางเลือกจากนิวเคลียร์มาทดแทน ความต้องการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของอินโดนีเซีย ชัดเจนมากขึ้น เพราะมีการจัดประชุมร่วมกับ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA เพื่อนำเรื่องการใช้พลังานทางเลือกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม G20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่บาหลี #รัสเซีย #อินโดนีเซีย #ลงทุนโรงกลั่นน้ำทัน #โรซาตอม #นำเข้าข้าวสาลี #นำเข้าปุ๋ย #สร้างรถไฟ #เมืองหลวงใหม่อินโดนีเซีย #นูซันทารา #โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ #ประธานาธิบดีโจโกวิโดโด #ประธานาธิบดีปูติน #G20 ------------------------------------------ #TNN #อาเซียน4.0 #อาเซียน4.0ออนไลน์ #อาเซียนพลัส #อาเซียน #ASEANplus ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจอาเซียนได้ใน รายการ อาเซียน Plus ทุกวันจันทร์ เวลา 10.30-11.00น. ทาง TNNช่อง16 และ รายการ อาเซียน 4.0 ONLINE ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00-17.30น. รับชมสด ได้ทาง Youtube: TNN Online และ FACEBOOK LIVE PAGE : TNN LIVE ------------------------------------------ ช่องทางติดตามสถานีข่าว TNN ช่อง16 https://www.tnnthailand.com https://tv.trueid.net/live/tnn16 https://www.youtube.com/c/tnn16 https://www.facebook.com/TNNthailand/ https://www.facebook.com/TNN16LIVE/ https://twitter.com/tnnthailand https://www.instagram.com/tnn_online/ https://www.tiktok.com/@tnnonline Line @TNNONLINE หรือคลิก https://lin.ee/4fP2tltIo ทันโลก ทันเศรษฐกิจ ทันทุกความจริง กับ TNNช่อง16 สถานีข่าวที่ถือหลักการของการนำเสนอข่าวตรงประเด็น รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และเป็นกลาง โดยทีมข่าวมืออาชีพ |